WXGA Real 3500 ANSI lumens

รุ่นเรียบง่ายที่มีประสิทธิภาพลดต้นทุนโดยรวมในการเป็นเจ้าของระดับสุดยอด

เทคโนโลยีหลอดภาพ Laser & LED Hybrid ของ CASIO

เข้าสู่ยุคใหม่ของโปรเจคเตอร์ระบบไฟส่องสว่างแบบโซลิดสเตท

ในปี 2010 CASIO กลายเป็นบริษัทแรกในโลกที่พัฒนาเทคโนโลยีหลอดภาพ Laser & LED ขึ้นมาสำหรับโปรเจคเตอร์ เนื่องจากพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และการถือประโยชน์เป็นสำคัญของยุคนี้ เทคโนโลยีระบบไฟส่องสว่างแบบโซลิดสเตทจึงกำลังกระจายตัวไปทั่วอุตสาหกรรมโปรเจคเตอร์อย่างรวดเร็วในฐานะมาตรฐานใหม่ของไฟส่องสว่าง CASIO มุ่งหวังที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดที่กำลังขยายตัวในฐานะผู้ผลิตโปรเจคเตอร์ระบบไฟส่องสว่างแบบโซลิดสเตทชั้นนำ

เทคโนโลยีหลอดภาพ Laser & LED

ทุกสิ่งเริ่มต้นจากการพัฒนาเครื่องออปติคอลในแบบฉบับของ CASIO ซึ่งรวมเลเซอร์สีน้ำเงินกำลังส่องสว่างสูงเข้ากับ LED สีแดง ประสิทธิภาพในการฉายภาพสูงที่ได้จากเทคโนโลยีการประหยัดพลังงานอันโดดเด่นและการเพิ่มประสิทธิภาพบล็อกออปติคอล นำเราไปสู่การบรรลุเป้าหมายในการฉายภาพความสว่างสูงและการใช้พลังงานที่ลดลง เมื่อเทียบกับระบบหลอดไฟปรอทและแหล่งกำเนิดแสงแบบโซลิดสเตทอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้น เรายังสามารถลดขนาดผลิตภัณฑ์ลงได้อีกด้วยความช่วยเหลือของรูปแบบดีไซน์ที่เป็นอิสระยิ่งขึ้นและเทคโนโลยีการประกอบแบบฉบับของเราที่ให้ความแน่นหนามาก เรื่องราววิวัฒนาการของโปรเจคเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ที่รับรองว่าจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรุ่นถัดไปยังคงดำเนินต่อไป

การเปิดใช้งานเร็วและระยะเวลาปิดเครื่องเร็ว [เปิด/ปิดทันที]

การเปิดใช้งานกินเวลาเพียง 5 วินาทีหลังจากที่กดเปิดเครื่อง จึงลดเวลาการรอคอยก่อนที่จะฉายภาพลงได้มาก เพียงแค่กดปุ่มเดียวก็สามารถปิดเครื่องได้ และไม่จำเป็นต้องรอให้เครื่องเย็นลงก่อนที่จะเปิดเครื่องใหม่ ความสามารถในการเริ่มต้นฉายภาพในทันทีจะเพิ่มประสิทธิภาพของการประชุมและการเรียนการสอน และระบบจัดการการเปิดปิดเครื่องที่มีประสิทธิภาพยังสามารถช่วยประหยัดไฟฟ้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ระบบควบคุมแสงทันที

ความสว่างจะถูกปรับให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมที่สุดโดยเทียบกับความสว่างในห้องโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยลดค่าไฟฟ้าลงได้
มีระดับความสว่างให้ปรับ 7 ระดับ อีกทั้งยังรองรับการปรับด้วยตนเองอีกด้วย

อายุการใช้งานยาวนาน ความทนทานสูง การใช้พลังงานต่ำ ช่วยลดต้นทุนโดยรวมในการเป็นเจ้าของ*

เทคโนโลยี Laser และ LED มีหลอดที่มีอายุการใช้งานยาวนานประมาณ 20,000 ชั่วโมง เมื่อรวมกับดีไซน์กันฝุ่น การเสื่อมถอยของความสว่างของโปรเจคเตอร์จึงลดลง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมีสาเหตุมาจากฝุ่น และยังช่วยลดระยะเวลาการบำรุงรักษาโปรเจคเตอร์ Casio อีกด้วย เมื่อเทียบกับโปรเจคเตอร์ที่ใช้หลอดไฟปรอท Casio แทบไม่จำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษา

* ต้นทุนโดยรวมในการเป็นเจ้าของประกอบด้วยค่าติดตั้ง ค่าบำรุงรักษา ค่าบริหารจัดการ เป็นต้น

ปราศจากสารปรอท รักษ์สิ่งแวดล้อม

โปรเจคเตอร์ของ CASIO มาพร้อมกับไฟส่องสว่างแบบโซลิดสเตท* ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหลอดภาพที่ล้ำสมัยที่สุด แม้ว่าในปัจจุบัน การใช้สารปรอทจะถือเป็นเรื่องต้องห้ามทั่วโลก แต่ก็ยังคงมีการใช้สารอันตรายดังกล่าวเพื่อเป็นแหล่งกำเนิดแสงของหลอดไฟโปรเจคเตอร์แบบดั้งเดิมอยู่ CASIO ได้เลิกใช้ปรอทในผลิตภัณฑ์ของบริษัทด้วยความคำนึงถึงสภาพแวดล้อม การนำไฟส่องสว่างแบบโซลิดสเตทมาใช้ ผสานกับการออกแบบให้เครื่องประหยัดพลังงานของ CASIO ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซ CO2

* ระบบไฟส่องสว่างแบบโซลิดสเตท คือหลอดภาพที่ใช้เลเซอร์ LED และเทคโนโลยีการกำเนิดแสงอื่นที่เป็นแบบเดียวกัน

ลดงานบำรุงรักษาที่ยุ่งยากให้น้อยลงเพื่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย

ลดปริมาณฝุ่นที่เล็ดลอดเข้าไปในบล็อกเครื่องออปติคอล จึงช่วยลดการเสื่อมถอยของความสว่างในการฉายภาพ เวลาและความพยายามที่ใช้ไปกับงานเช่นการเปลี่ยนแผ่นกรองจะลดน้อยลง ซึ่งมีคุณค่าต่อผู้ที่ใช้โปรเจคเตอร์ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยฝุ่นหรือติดไว้บนเพดาน ซึ่งต้องใช้เวลานานในการบำรุงรักษา

เลนส์ซูม 1.5X เพื่อการใช้งานที่มีความยืดหยุ่นและการติดตั้งแบบ 360°

เมื่อโปรเจคเตอร์มีกำลังซูม 1.5x การติดตั้งจึงง่ายดายขึ้น คุณประโยชน์อื่นๆ ได้แก่การติดตั้งอย่างไม่มีข้อจำกัดแบบ 360° ที่รองรับการฉายภาพที่มีความยืดหยุ่นสูง รวมทั้งการฉายภาพแนวนอนจากตำแหน่งแนวตั้ง หรือการฉายภาพในแนวตั้งฉากลงบนพื้นหรือเพดาน

การออกแบบที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก

การทำงานในโหมด Eco ทำให้เครื่องใช้พลังงานเพียง 120W* ผู้ใช้ยังสามารถใช้ประโยชน์จากระยะเวลาเริ่มต้นทำงานที่สั้นเพียง 5 วินาทีเพื่อประหยัดพลังงานเพิ่มได้อีกด้วยระบบเปิด/ปิดเครื่องนวัตกรรมใหม่ การพัฒนาเหล่านี้คือการตอบสนองต่อความต้องการประหยัดพลังงานในยุคนี้

* ตัวเลขสำหรับ XJ-V1 (เมื่อเลือก Eco 1 อยู่)

ทราบเกี่ยวกับเทคโนโลยีของ Casio ไปแล้ว เรามาดูตัวเครื่อง Casio XJ-V110W กันคะ

การออกแบบ

Casio XJ-V110W ใช้วัสดุเป็นพลาสติก ผิวด้าน สีขาว สวยงาม ข้อดีคือไม่ลื่น ถือจับกระชับ แต่ข้อเสียคือเลอะค่อนข้างง่าย ด้านหน้ามีปุ่มปรับระดับความสูงของตัวเครื่อง สำหรับใช้งานวางบนโต๊ะ

ปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง และปุ่มเลือก Input ไม่สามารถควบคุมอย่าอื่นได้จากตัวเครื่อง ต้องใช้รีโมทไร้สายเท่านั้น ถ้าต้องการปรับตั้งค่าอื่นๆ

รีโมทไร้สายมีขนาดเล็ก ขนาดปุ่มกำลังดี ควบคุมการใช้งานตัวเครื่องได้ครบ

ระยะฉาย

Casio XJ-V1 และ V2 เวลาตั้งบนโต๊ะภาพจะขยับขึ้นด้านบนค่อนข้างเยอะ แต่ Casio XJ-V110W ทาง Casio ได้ปรับชุดเลนส์ ให้ใกล้เคียงกับโปรเจคเตอร์ทั่วไปมากขึ้น

เลนส์ที่สามารถปรับโฟกัส และสามารถซุมได้ถึง 1.5 เท่า

การเชื่อมต่อ

พอร์ทเชื่อมต่อไล่จากซ้ายไปขวา ช่อง Kensington Lock, พอร์ท AC Power, พอร์ท VGA in – Out, พอร์ท HDMI, ช่อง Audio in – out, พอร์ท MicroUSB สำหรับ Service และช่อง Infrared สำหรับรีโมท

โดยรุ่นนี้ไม่มีลำโพงในตัว แต่จะมีช่องเชื่อมต่อ Audio in -Out แบบ 3.5 มม. สำหรับเชื่อมลำโพงภายนอกมาให้

จุดเด่น

  • ความสว่างสูง
  • ราคาถูก เมื่อเทียบกับคู่แข่ง
  • ค่าบำรุงรักษา ต่ำมาก เมื่อเทียบกับโปรเจคเตอร์ทั่วไป
  • ระยะเวลาการับประกัน 3 ปี หลอดภาพ 6,000 ชั่วโมง
  • ได้ระยะซูมเลนส์ 1.5 เท่า  ทำให้ มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน
  • เป็นโปรเจคเตอร์ไม่กี่รุ่นที่ผลิตที่ญี่ปุ่น

จุดสังเกตุ

  • สีฟ้ายังแสดงผลได้ไม่ถูกต้องนัก
  • พอร์ทเชื่อมต่อยังน้อยไปนิด
  • ปุ่มควบคุมที่ตัวเครื่องน้อย ต้องใช้งานรีโมทเป็นหลัก
  • บอดี้สีขาวด้าน ทำให้เปื้อนค่อนข้างง่าย

สรุป

Casio XJ-V110W เป็นโปรเจคเตอร์ที่เหมาะกับห้องประชุมขนาด 10 – 100 คน ขนาดหน้าจอตั้งแต่ 70 – 150 นิ้ว ขึ้นอยู่กับสภาพแสง เป็นโปรจคเตอร์ ที่มีจุดเด่นเรื่องความทนทาน และการรับประกันที่ยาวนาน ถึง 3 ปี สำหรับตัวเครื่อง และหลอดภาพอีก 6,000 ชั่วโมง ถ้าเทียบกับโปรเจคเตอร์ยี่ห้ออื่นกว่า 90% ใท้องตลาดปัจจุบันจะรับประกันตัวเครื่อง 2 ปี และหลอดภาพ 1 ปี หรือ 1,000 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อเทียบการบำรุงรักษาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เราสามารถประหยัดค่าจ่ายได้มากว่า 50%

สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Hotline : 0934429239